ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ จากกลิ่นบำบัดในอโรมาเทอราปี อโรมาเทอราปี (Aromatherapy) เป็นทั้งการสำรวจ คิดค้น ความสร้างสรรค์ และความรู้เชิงเทคนิคในแง่ปฏิบัติ โดยการสร้างสรรค์ต่างๆมาจากการเข้าใจคุณลักษณะของน้ำมันหอมระเหย (Essential Oils) และจินตนาการว่ากลิ่นที่มีความแตกต่างกัน สามารถผสมผสานกลิ่นแปลกใหม่ได้อย่างไร ในแง่วิทยาศาสตร์ส่วนประกอบน้ำมันหอมทางเคมีเหล่านี้ยังมีปฏิกิริยาต่อร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณอีกด้วย
"ด้านจิตใจ" น้ำมันหอมระเหยชนิดต่างๆสามารถออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาทและส่งผลไปยังความรู้สึก ลักษณะทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยเปรียบเหมือนกุญแจใจในการไขไปสู่ภายในโดยผ่านทางจมูก กลิ่นหอมของอโรมาเทอราปีสามารถส่งไปตามระบบต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนที่เก็บความรู้สึกและอารมณ์ไว้ในระบบที่แตกเป็นแขนงในร่างกาย แล้วจะปล่อยไปสู่ระบบของส่วนที่มีผลกระทบต่อประสาท การสูดดมน้ำมันหอมระเหยต่างๆ จะช่วยปรับสภาพอารมณ์ให้อยู่ในสภาวะคงที่ และยังส่งผลต่อการรักษาส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวกับร่างกายโดยเฉพาะช่วยลดความเครียด ตัวอย่างหนึ่งของการใช้น้ำมันหอมระเหยที่สามารถลดความเครียดได้เป็นอย่างดี คือ การหยดน้ำมันหอมระเหยคาโมไมล์(Chamomile) ลงบนผ้าเช็ดหน้า 2-5 หยด และสูดดมเป็นประจำ เป็นเพราะว่าน้ำมันนี้ระเหยง่ายในสภาพแวดล้อมต่างๆ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ตะเกียง ซึ่งมีลักษณะส่วนบนเป็นถ้วยเซรามิคเล็กๆให้เติมน้ำมันหอมระเหยต่างๆ ผสมกับน้ำ และลนด้านล่างของถ้วยนั้นด้วยเทียนหรือหลอดไฟ เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยออกมา จาการทดลองใช้น้ำมันหอมระเหยในบริเวณที่นั่งรอของคนไข้พบว่า ช่วยให้คนไข้มีความกระชุ่มกระชวย สดชื่น และเมื่อจุดไว้ในสำนักงาน ยังจะช่วยลดอาการง่วงซึมจากอาหารกลางวันได้อีกด้วย ทำให้มีพลังในการทำงาน ซึ่งส่วนมากจะใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่น Peppermint และกลิ่นมะนาว
"ด้านร่างกาย" ไม่เพียงแค่น้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ สามารถช่วยผ่อนคลายด้านจิตใจแล้วยังช่วยทางด้านร่างกายอีกด้วยน้ำมันหอมระเหยยังสามารถซึมเข้าทางผิวหนังได้ โดยมันจะส่งไปยังต่อมของเส้นขนโดยเดินทางผ่านตามเซลล์ต่างๆ และไปยังต่อมไขมัน น้ำมันหอมยังสามารถทำให้ผิวหนังสะอาดและสดชื่นตลอดเวลา น้ำมันหอมระเหย สามารถใช้รักษาโรคด้วยวิธีการนวดได้ โดยการนำไปผสมในลูกประคบและผสมในการใช้ในการอบไอน้ำที่บริเวณใบหน้าและผสมในน้ำที่แช่ไว้สำหรับอาบ แต่น้ำมันหอมระเหยควรจะมีการทำให้เจือจางก่อนที่จะใช้ อีกทั้งน้ำมันหอมที่สกัดได้มาจากผัก เช่น น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากเมล็ด Almond และ Jojoba สามารถประยุกต์ในการแช่น้ำไว้อาบและรักษาสุขภาพ โดยผสมให้เจือจางประมาณ 2-3% จะช่วยลดความตึงเครียดในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี น้ำมันหอมนอกจากจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจได้แล้ว น้ำมันหอมระเหยยังมีประโยชน์ต่อผิวหนังอีกด้วย เพราะผิวหนังเป็นส่วนที่มีความสลับซับซ้อนและไวต่อความรู้สึก ผิวหนังยังเปรียบเสมือนเครื่องควบคุมระบบภายในนั้นเองและยังป้องกันตัวเราจากสิ่งอันตรายภายนอกและมลพิษต่าง ๆ หลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังอุดตัน เราอาจใช้น้ำมันกลิ่น Lavender ปรับสภาพความมันของผิวและขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขนออกไป และยังสามารถช่วยบรรเทาและปรับสภาพผิวแห้งกลับมาชุ่มชื่น ซึ่งผิวแห้งเกิดจาการขาด Sebum (สารไขมันที่ขับออกจากต่อมผิวหนัง) มากกว่าปกติ อาจเกิดจากการใช้ ครีมบำรุงผิวที่มีค่าต่ำกว่ามาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหนัง แต่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยน้ำมันหอมระเหย
"ด้านจิตวิญญาณ" ประโยชน์ที่ได้รับจากกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยของแต่ละกลิ่นนั้น ผสมผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดีเมื่อใช้กับสูตรต่างๆ เปรียบเหมือนกับการสวดอ้อนวอนหรือการขอพรบางประการ อีกทั้งยังสามารถช่วยในเรื่องของความรู้สึกนึกคิด ซึ่งสามารถที่จะทำให้สมองมีความคิดสร้างสรรค์ ส่วนน้ำมันที่ได้จากกำยานนั้นได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่อดีตกาล ช่วยในการทำงานของความสัมพันธ์ระหว่างระบบภายในและภายนอก รวมทั้งกลิ่นหอมที่ได้จากขี้ผึ้งซึ่งแพร่กระจายตรงไปยังปอด สามารถกระตุ้นระบบของการทำงานต่างๆ รวมทั้งระบบการหายใจด้วย น้ำมันหอมเป็นสิ่งที่มีค่ามากและให้ผลทางด้านบวกต่อการทำงานในแต่ละระบบในตัวเรา การบำบัดทางกลิ่นนั้นยังสามารถนำเข้ามาใช้กับทางวิทยาศาสตร์ คือ สามารถกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตบนพื้นฐานของความสวยความงาม และมีผลถึงความซับซ้อนต่างๆ ของระบบ บางกรณีก็ยังสามารถผลักดันให้เรานึกถึงเหตุการณ์และการมีชีวิตที่สดใสในวัยเด็ก และในอดีตได้อย่างแม่นยำ รวมถึงความไวต่อการรับกลิ่นนั้น ถือได้ว่าไม่ใช่เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล มันยังเป็นสิ่งซึ่งเกี่ยวกับธรรมชาติที่เรียกได้ว่า "สิ่งที่สามารถยอมรับได้" เช่น ชนเผ่าหนึ่งในสมัยดึกดำบรรพ์ที่เกาะนิวกินี เมื่อเวลาที่พวกเขาต้องลาจากกัน พวกเขาจะปฏิบัติโดยการที่เอามือไปประสานไว้ที่ใต้รักแร้ของกันและกัน จากนั้นก็จะถูและสูดดมกลิ่นซึ่งกันและกัน อโรมาเทอราปี เป็นศาสตร์แห่งการใช้กลิ่นที่มีมนต์ขลัง เต็มไปด้วยความลับและมนต์เสน่ห์ ทั้งยังมีประโยชน์ในการบำบัดร่างกายและจิตใจของมนุษย์มาตั้งแต่โบราณกาลจนถึงในปัจจุบัน และหากเราทำความเข้าใจเรียนรู้สรรพคุณของกลิ่นแต่ละกลิ่นอย่างลึกซึ้งแล้ว ย่อมจะนำไปสู่การใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณค่าต่อร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ...
|